วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2557


100 สถานที่ ที่น่าจดจำก่อนจะหายไปจากโลก 


100 สถานที่ ที่น่าจดจำก่อนจะหายไปจากโลก เป็นผลงานที่จะสะท้อนให้เห็นปัญหาของภาวะโลกร้อนที่กำลังส่งผลกระทบกับธรรมชาติและมนุษย์ ถูกจัดทำขึ้นโดยกลุ่ม Co+Life ซึ่งร่วมก่อตั้งโดย Stine Norden และ S?ren Rud ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนิทรรศการ ?Earth from Above? and ?Spirit of the Wild? ในประเทศเดนมาร์ก
100 สถานที่ ที่น่าจดจำก่อนจะหายไปจากโลก ถูกผลิตขึ้นมาเป็นหนังสือ โปสเตอร์ และโปสการ์ด รวมถึง 100 สารคดีสั้นๆ ของสถานที่ ที่จะหายไปจากโลกเพราะผลกระทบของภาวะโลกร้อน ที่จะได้ออกอากาศทางโทรทัศน์ของหลายๆประเทศ ซึ่งรวมถึงช่อง 3 ของประเทศไทยด้วย
ผลกระทบของภาวะโลกร้อนต่อ 100 สถานที่นั้น แบ่งออกเป็น 9 ประเภทดังนี้
1. ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น
2. การละลายของน้ำแข็งในทะเล
3. อุณหภูมิที่สูงขึ้น
4. แนวปะการังถูกทำลาย
5. ฝนตกน้อยลง
6. ธารน้ำแข็งละลาย
7. กลายเป็นทะเลทราย
8. การละลายของน้ำแข็งบนพื้นดิน
9. สภาพอากาศที่รุนแรง
ท่านสามารถเข้าไปดู 100 สถานที่ ที่ไหนจะหายไปเพราะสาเหตุข้างต้นได้ที่ www.100places.com
ส่วนกรุงเทพมหานครของเราก็เป็นสถานที่ ที่ 58 ซึ่งเราควรจะจดจำไว้ก่อนที่จะหายไปเพราะระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะหันมามองปัญหาภาวะโลกร้อน หรือต้องรอให้ถึงวันที่กรุงเทพจมอยู่ใต้ทะเลก่อน



วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เกาะมัลดีฟส์จะหายไปเพราะภาวะโลกร้อน



เกาะมัลดีฟส์จะหายไปเพราะภาวะโลกร้อน

 


หมู่เกาะมัลดีฟส์ หรือชื่อเรียกเต็มๆว่า สาธารณรัฐมัลดีฟส์ (Republic of Maldives) เป็นประเทศที่ประกอบด้วยหมู่เกาะมากมายกว่า 1,900 เกาะ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศศรีลังกาและประเทศอินเดีย


มัลดีฟส์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติของเกาะที่สวยงาม ดำน้ำดูแนวปะการังและสัตว์น้ำที่มีอยู่มากมาย เกาะมัลดีฟส์ถือว่าเป็นเกาะสวรรค์ของทุกคนที่ไปเยือนเลยก็ว่าได้


แต่ภาวะโลกร้อนก็ทำให้เกาะ สวรรค์แห่งนี้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก เมื่อผลการวัดระดับน้ำทะเลรอบๆเกาะตลอด 15 ปีที่ผ่านมานี้เพิ่มขึ้นถึง 4.5 เซนติเมตร คาดว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 20-60 เซนติเมตรภายในสิ้นศตวรรษนี้ และเราจะพบพายุที่บริเวณเกาะมัลดีฟส์บ่อยขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ที่ว่านี้จะส่งผลกระทบต่อประชากรของประเทศและนักท่องเที่ยว อย่างมากแน่นอน ประเทศมัลดีฟส์เป็นประเทศแรกที่ลงนามในพิธีสารเกียวโต (เป็นมาตรการทางกฎหมายที่ใช้ดำเนินการในการรับมือกับภาวะโลกร้อน)



ที่มา http://www.greentheearth.info/%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A4%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A7/

 

 

 

 

 

ลดภาวะโลกร้อนฤดูหนาว


ลดภาวะโลกร้อนฤดูหนาว



อากาศในบ้านเราตอนนี้คงทำให้หลายๆท่านที่อาศัยอยู่ในเมืองรู้สึกเย็นสบาย ต่างจากหน้าร้อนที่ร้อนเหลือเกิน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะหนาวแบบนี้ไปได้อีกนานเท่าไหร่ หลายๆท่านก็คงเตรียมเดินทางไปเที่ยวรับลมหนาวในหลายๆจังหวัดของประเทศไทย ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องดีที่ประเทศเรามีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามอยู่มากมาย ยังไงก็ช่วยกันท่องเที่ยวภายในประเทศของเราเพื่อช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว ของเราให้กลับมาคึกคักเหมือนเดิม และก็อย่าลืมศึกษาเส้นทางให้ดีก่อนเดินทางนะเพื่อจะได้ช่วยประหยัดพลังงานและประหยัดค่าน้ำมันของเราด้วยและในหน้าหนาวนี้เรามาช่วยกันปิดแอร์เพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อนกัน ดีไหมครับ ด้วยอากาศที่เย็นสบายแบบนี้ แค่เราเปิดหน้าต่างรับอากาศเย็นๆจากธรรมชาติก็น่าจะพอ ไม่เพียงแต่จะช่วยประหยัดพลังงานแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าไฟของบ้านท่านอีกด้วย การที่เราเปิดเครื่องปรับอากาศขนาด 12000 บีทียู 1 ชั่วโมง กินไฟเป็นเงินถึง 17.5 บาท ถ้าช่วงหน้าหนาวนี้เราหันมาเปิดหน้าต่างแทนการเปิดแอร์ เดือนๆนึงคงประหยัดพลังงานและเงินของท่านได้เยอะเลยทีเดียว ในยุคเศรษฐกิจฝืดเคืองแบบนี้ นี่คงเป็นวิธีที่ดีในการลดรายจ่าย และท่านยังได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมกันลดภาวะโลกร้อนอีกด้วย
   
ที่มา  http://www.greentheearth.info/%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A4%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A7/

ภาวะโลกร้อนจะทำให้กรุงเทพจมทะเล



ภาวะโลกร้อนจะทำให้กรุงเทพจมทะเล

 

ภาวะโลกร้อนนั้นกำลังส่งผลทำให้น้ำแข็งที่ขั้วโลกละลายลง อย่างเร็วมาก เมื่อน้ำแข็งละลายทำให้เกิดผลกระทบต่อธรรมชาติเป็นอย่างมากและผลกระทบโดยตรง เลยก็คือทำให้ระดับน้ำทะเลนั้นสูงขึ้นจากปกติ ทั่วโลกก็จะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้อย่างแน่นอนโดยเฉพาะประเทศที่มี ความสูงจากน้ำทะเลไม่มากนัก รวมทั้งประเทศไทยของเราก็จะถูกน้ำท่วมหายไปเป็นบางส่วนด้วย ในอนาคตกรุงเทพมหานครก็จะจมไปอยู่ใต้ทะเลอย่างแน่นอน

จากในรูปสีน้ำเงินนั่นคือน้ำทะเลที่จะท่วมขึ้นมา ถ้าระดับน้ำทะเลสูงขึ้น 7 เมตร ตอนนี้ทุกท่านคงตั้งคำถามในใจว่า ใช้เวลานานเท่าไรระดับน้ำทะเลถึงจะสูงขึ้นมาเท่านี้ดร.อาจอง ท่านได้พูดไว้ในรายการจับเข่าคุยว่า เมื่อก่อนคำนวณกันไว้ว่าอีกประมาณ 92 ปี แต่ตอนนี้อะไรๆก็ไม่เป็นอย่างที่คิด อุณหภูมิสูงขึ้นเร็วมาก น้ำแข็งละลายเร็วกว่าที่เคยคาดคิดกันไว้ จึงคิดว่าน่าจะเหลือซัก 30-40 ปี แต่แย่กว่านั้นเมื่อนักวิทยาศาสตร์ได้พบก๊าซมีเทนปริมาณมากบริเวณใกล้ๆขั้วโลกเหนือ?จึงนำเอาไปคำนวณอีกที และได้ข้อสรุปว่าคงจะเป็นอีก 30 ปีค่อนข้างแน่นอน
ถ้าพวกเราช่วยกันใช้พลังงานอย่างประหยัดในตอนนี้ และหันมาช่วยกันลดภาวะโลกร้อน ก็หวังว่ามันจะช่วยชะลอเวลาให้มันนานขึ้นอีกหน่อย อนาคตเราคงต้องมาหาเมืองหลวงใหม่กัน กรุงเทพก็คงกลายเป็นแค่ความทรงจำ เพราะภาวะโลกร้อนแท้ๆ


ที่มา  http://www.greentheearth.info/%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A4%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A7/






จะป้องกันได้อย่างไร


จะป้องกันได้อย่างไร


จะป้องกันได้อย่างไร   ได้มีผู้แนะนำวิธีการช่วยป้องกันสภาวะโลกร้อนไว้ดังนี้
1.    ลดระดับการใช้งานเครื่องใช้ ไฟฟ้าลง เช่น เพิ่มความร้อนของเครื่องปรับอากาศในสำนักงานหรือที่พักอาศัยลงสักหนึ่งองศา หรือ ปิดไฟขณะไม่ใช้ งาน
2.    นำกระดาษหรือภาชนะบรรจุอื่นๆ กลับไปใช้ใหม่ พยายามซื้อสิ่งของที่มีอายุ การใช้งานนานๆ จะช่วยลดการใช้พลังงานของโลกอย่างมากมาย
3.    รักษาป่าไม้ให้ได้มากที่สุด และลดหรืองดการจัดซื้อสิ่งของหรือเฟอร์นิเจอร์  ต่างๆ ที่ทำจาก  ไม้ที่ตัดเอามาจากป่า เพื่อปล่อยให้ต้นไม้และป่าไม้เหล่านี้ได้ทำหน้าที่การ เป็นปอดของโลกสืบไป

ที่มา http://www.dol.go.th/sms/interesting.htm